Triangulation Relationship #เมื่อลูกถูกดึงเป็นตัวกลางของปัญหาระหว่างพ่อและแม่
เมื่อ 1 วันที่แล้ว
Triangulation Relationship #เมื่อลูกถูกดึงเป็นตัวกลางของปัญหาระหว่างพ่อและแม่ บทความโดย #น้องตัวกลม
.
“หนูช่วยบอกพ่อหน่อย ว่าแม่ไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น”
“ลูกคิดว่าแม่ทำถูกไหม? พ่อเขาไม่เข้าใจแม่เลย”
.
หากประโยคเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยในบ้านของคุณ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “Triangulation Relationship” หรือ “#ความสัมพันธ์แบบสามเหลี่ยม” ที่ลูกต้องกลายเป็นคนกลางระหว่างพ่อและแม่โดยไม่รู้ตัว
.
Triangulation Relationship คืออะไร?
Triangulation Relationship เกิดขึ้นเมื่อบุคคลที่สาม (ซึ่งมักเป็นลูก) ถูกดึงเข้ามาเป็นตัวกลางในการสื่อสารหรือแก้ปัญหาระหว่างสองคน (พ่อแม่) แทนที่จะพูดคุยกันโดยตรง พ่อแม่อาจใช้ลูกเป็นสะพานในการถ่ายทอดความรู้สึก ส่งข้อความ หรือแม้แต่ระบายอารมณ์ที่มีต่อกัน
.
#ตัวอย่างสถานการณ์:
พ่อกับแม่ทะเลาะกัน แต่ไม่คุยกันโดยตรง กลับใช้ลูกเป็นคนสื่อสารความรู้สึกนั้นแทน
แม่ไม่พอใจพ่อ แล้วพูดกับลูกว่า "ดูสิ พ่อเธออีกแล้ว ทำแบบนี้ตลอดเลย"
ลูกถูกกดดันให้เลือกข้าง เช่น พ่อแม่แยกทางกัน แล้วแต่ละฝ่ายพยายามทำให้ลูกรู้สึกว่าต้องอยู่กับตัวเอง
.
#ผลกระทบที่มีต่อลูก
ความเครียดและความกดดันสูง – เด็กต้องรับมือกับอารมณ์ของพ่อแม่ ทำให้รู้สึกหนักใจและไม่ปลอดภัย
รู้สึกผิดและสับสน – บางครั้งลูกอาจรู้สึกว่าต้องเลือกข้าง หรือรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยให้พ่อแม่คืนดีกันได้
ส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์และความสัมพันธ์ในอนาคต – เด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ อาจมีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในอนาคตได้
.
#พ่อแม่จะป้องกันไม่ให้ลูกตกอยู่ใน Triangulation Relationship ได้อย่างไร?
พูดคุยกันโดยตรง – หากมีปัญหา ให้พยายามสื่อสารกันเองโดยไม่ใช้ลูกเป็นตัวกลาง
อย่าระบายอารมณ์กับลูก – เด็กไม่ใช่ที่ปรึกษาหรือผู้ไกล่เกลี่ย ควรหันไปพูดคุยกับคู่สมรสโดยตรงหรือหาผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือ
สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูก – ให้ลูกรู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อปัญหาของพ่อและแม่ และไม่ต้องเลือกข้าง
ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของลูก – ถ้าลูกเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล หรือเก็บตัว อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
.
การที่ลูกต้องกลายเป็นคนกลางคอยรับมืออารมณ์ของพ่อแม่ อาจสร้างบาดแผลทางใจที่ติดตัวไปจนโต พ่อแม่จึงควรพยายามจัดการปัญหาระหว่างกันโดยตรง และสร้างสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น ปลอดภัย สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเรียนรู้การเลี้ยงลูกเชิงบวกเพื่อสร้างความเข้าใจและสายสัมพันธ์ที่ดีกับลูก แบบ #คอร์สonline ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ในคอร์สจัดเต็ม ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง โดยเรียนฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยค่ะ
.
เพราะหน้าที่ของเด็กคือการเติบโตอย่างมีความสุข ไม่ใช่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของพ่อแม่ 
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก
.
“หนูช่วยบอกพ่อหน่อย ว่าแม่ไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น”
“ลูกคิดว่าแม่ทำถูกไหม? พ่อเขาไม่เข้าใจแม่เลย”
.
หากประโยคเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยในบ้านของคุณ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “Triangulation Relationship” หรือ “#ความสัมพันธ์แบบสามเหลี่ยม” ที่ลูกต้องกลายเป็นคนกลางระหว่างพ่อและแม่โดยไม่รู้ตัว
.

Triangulation Relationship เกิดขึ้นเมื่อบุคคลที่สาม (ซึ่งมักเป็นลูก) ถูกดึงเข้ามาเป็นตัวกลางในการสื่อสารหรือแก้ปัญหาระหว่างสองคน (พ่อแม่) แทนที่จะพูดคุยกันโดยตรง พ่อแม่อาจใช้ลูกเป็นสะพานในการถ่ายทอดความรู้สึก ส่งข้อความ หรือแม้แต่ระบายอารมณ์ที่มีต่อกัน
.




.




.





.

.


Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก

เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ