สอน “ลูก” ให้ “รอด” จากการถูกละเมิดและคน toxic ที่ใช้ความรุนแรงใกล้ตัว
เมื่อ 1 วันที่แล้ว
สอน “ลูก” ให้ “รอด” จากการถูกละเมิดและคน toxic ที่ใช้ความรุนแรงใกล้ตัว บทความโดย #มัมมี่Bชวนเมาท์
.
ทุกวันนี้ข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทุกประเภท และการใช้ความรุนแรงนับวันดูแล้วยิ่งหนัก โดยหลายครั้งบุคคลอันตราย หรือคนที่มีความเป็นพิษซ่อนอยู่มักมาในรูปแบบของเพื่อนหรือคนใกล้ชิด
.
เพราะพ่อแม่ไม่สามารถควบคุมทุกความเสี่ยงให้ลูกได้ วันนี้ #มัมมี่Bชวนเมาท์ จึงได้รวมทักษะจำเป็นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก ทำให้ลูกสามารถปกป้องตัวเองจากการถูกละเมิด และปกป้องตัวเองจากคน toxic ที่ใช้ความรุนแรงรอบตัว รวมถึงการเรียนรู้ในการป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม
.
ซึ่งพ่อแม่สามารถช่วยสร้างทักษะจำเป็นให้ลูกได้ดังนี้
.
1. #ปลูกฝังความรักและการรู้คุณค่าในตนเอง
โดยให้ความรักและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น สร้าง self-esteem ที่ดีโดย #ชื่นชมในคุณสมบัติที่ดีของลูกบ่อยๆ เด็กที่รักตัวเองจะไม่ปล่อยให้ใครรังแก ฉันดีพอจึงไม่เชื่อในคำพูดลบของใครโดยไม่มีเหตุผล
.
ลูกจะรู้จักสร้างขอบเขตและปกป้องสิทธิ์ของตน กล้าปฎิเสธ หรือ พูดคำว่า “ไม่” เมื่อรู้สึกไม่ดี ไม่ยอมให้ใครชักจูงหรือละเมิดสิทธิ์ได้ง่ายๆ เพราะมีความมั่นคงทางใจและความมั่นใจเป็นเกราะและอาวุธ
.
(เริ่มศึกษาได้ฟรีจาก บทที่ 1 ปัจจัยต่างๆในการปรับพฤติกรรมลูก และ บทที่ 4 ทักษะการชมสร้าง self esteem ที่ https://www.netpama.com)
.
2. #สอนทักษะในการจัดการควบคุมอารมณ์
ในยามขับขันหากลูกจัดการอารมณ์ตนเองได้ จะไม่กังวล ตกใจ หรือกลัวเกินไป สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งยั่วยุ ไม่วู่วามหรือใช้อารมณ์ท้าทาย แต่จะใช้สติและเหตุผลในการจัดการแก้ไขปัญหา
.
ทักษะสำคัญนี้ควรสอนและฝึกฝนตั้งแต่ลูกยังเล็ก ทำได้โดยพูดสะท้อนความรู้สึกของลูกบ่อยๆ ฝึกให้ลูกเข้าใจและรู้จักการจัดการอารมณ์ตนเอง
.
“เพื่อนพูดแบบนี้ ลูกรู้สึกยังไงบ้าง”
“แม่เข้าใจว่าลูกเสียใจที่เพื่อนพูด/ทำแบบนี้ ลูกมีคุณค่าและเป็นที่รักของพ่อแม่เสมอนะ ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาทำให้เรารู้สึกแย่หรือรังแกลูกได้”
“พ่อรู้ว่าลูกกลัวจริงๆ พ่ออยู่ตรงนี้กับลูกเสมอ บอกได้เลยถ้าอยากให้พ่อช่วยอะไร”
.
(ศึกษาเทคนิคการสื่อสารฝึกสะท้อนความรู้สึกและการจัดการอารมณ์ ได้ฟรีจาก บทที่ 2 เทคนิคการสื่อสาร https://www.netpama.com
.
3. #ฝึกทักษะตามวัยและวินัยในตัวเอง
เด็กที่ดูแลตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้จะมีความภูมิใจ ไม่รอพึ่งพาผู้อื่น มีความเป็นตัวเอง จึงมักจะไม่ใช่เป้าของการถูกควบคุม บังคับ หรือรังแก
.
ทักษะตามวัยจะทำให้ลูกมั่นใจ สามารถปรับใช้ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง ร่วมกับทักษะอื่นๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าได้
.
3. #ฝึกทักษะในการแก้ปัญหา
ทักษะนี้ต้องผ่านการฝึกฝน ฝึกให้ลูกได้คิดและเรียนรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้นจริง หรือทำได้โดยพูดคุยผ่านนิทาน ข่าวหรือเรื่องราวในสังคม โดยถามคำถามปลายเปิดฝึกให้ลูกคิดหาคำตอบด้วยตนเองก่อน แล้วค่อยสอนหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกเป็นประจำ เช่น
.
“ถ้าเพื่อนบอกว่านี่คือการเล่น แต่ลูกไม่ชอบและไม่สนุก”
.
ลูกจะทำอย่างไรได้บ้าง ?
#ทางออกมีได้หลายทาง เช่น เพิกเฉยหากทำได้ หลีกเลี่ยง ถอยหนี หรือเผชิญหน้าด้วยความกล้าแต่ไม่ท้าทาย บอกให้หนักแน่นว่า “หยุด เราไม่ชอบที่ทำแบบนี้”
.
ลูกจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ?
#ลูกต้องมีทักษะและไหวพริบเพื่อแก้ปัญหา เพราะในความเป็นจริงไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว ต้องเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาตามสถานการณ์ให้เหมาะสม
.
เช่น การไม่อยู่ลำพังในที่ลับตาคน ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มเพื่อลดการเป็นเป้า หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคน toxic ใช้การผูกมิตร หรือตอบโต้เพื่อป้องกันตัวหากจำเป็น กล้าที่จะหนักแน่นเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่นด้วยวิธีที่เหมาะสม
.
ใครช่วยลูกได้บ้าง ?
#ฝึกให้ลูกกล้าขอความช่วยเหลือ ทำได้โดย พูดคุย ถามไถ่ลูกบ่อยๆ รับฟังโดยไม่ซ้ำเติมแม้ลูกจะทำผิดพลาด เมื่อลูกพบปัญหาช่วยให้ลูกได้คิดหาทางแก้ไขด้วยตัวเอง และยื่นมือเข้าช่วยทันทีเมื่อลูกต้องการ
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก
.
ทำให้ลูกกล้าพอที่จะขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจากเพื่อน คุณครู พ่อแม่ หรือ ผู้ใหญ่รอบข้างที่ไว้ใจ
.
4. #ฝึกทักษะในการช่างสังเกต
ฝึกให้ลูกได้สังเกต ท่าทาง อารมณ์นิสัยและการกระทำของคนรอบข้าง การช่างสังเกตจะทำให้ลูกรอบคอบ รู้จักแยกแยะและเลือกคบคน มีสัญชาตญาณในการระวังตนเอง
.
หากลูกรู้สึกไม่สบายใจ ไม่ปลอดภัย ต้องกล้าที่จะพูดหรือหยุดความสัมพันธ์แล้วเดินออกมา เพื่อขอความช่วยเหลือ
.
“วันนี้ที่โรงเรียนลูกเป็นอย่างไร เพื่อนๆ เล่นกันยังไงบ้าง“
“แม่ได้ยินว่า คุณครูว่ายน้ำดุมาก ไหนเล่าให้แม่ฟังหน่อยว่าคุณครูทำอะไร”
“ลูกคิดว่า ทำไมครูถึงพูด/ทำอย่างนั้น แล้วเพื่อนกับหนูรู้สึกอย่างไร เราจะทำอะไรได้บ้าง“
.
5. #ทำให้บ้านคือเซฟโซนและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก
ไม่ว่าโลกภายนอกจะน่ากลัวสักแค่ไหน ครอบครัวจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกเสมอ พ่อแม่คือต้นแบบที่ดีของลูก ภายใต้ร่มเงาแห่งความรักและห่วงใยจะมีทั้งความเข้มแข็ง มั่นคงและปลอดภัยโอบกอดลูกให้อุ่นใจอยู่เสมอ
.
มาเรียนรู้และเติบโตอย่างเข้มแข็งไปด้วยกันกับลูกนะคะ
.
ทุกบทเรียนข้างต้นได้ถูกรวบรวมไว้ในคอร์สจัดเต็ม #คอร์สonline จาก Net PAMA ที่สามารถนำไปปรับใช้ในทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน จัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง ทั้งหมดนี้เรียน #online ได้ฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
.
ทุกวันนี้ข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทุกประเภท และการใช้ความรุนแรงนับวันดูแล้วยิ่งหนัก โดยหลายครั้งบุคคลอันตราย หรือคนที่มีความเป็นพิษซ่อนอยู่มักมาในรูปแบบของเพื่อนหรือคนใกล้ชิด
.
เพราะพ่อแม่ไม่สามารถควบคุมทุกความเสี่ยงให้ลูกได้ วันนี้ #มัมมี่Bชวนเมาท์ จึงได้รวมทักษะจำเป็นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก ทำให้ลูกสามารถปกป้องตัวเองจากการถูกละเมิด และปกป้องตัวเองจากคน toxic ที่ใช้ความรุนแรงรอบตัว รวมถึงการเรียนรู้ในการป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม
.
ซึ่งพ่อแม่สามารถช่วยสร้างทักษะจำเป็นให้ลูกได้ดังนี้
.
1. #ปลูกฝังความรักและการรู้คุณค่าในตนเอง
โดยให้ความรักและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น สร้าง self-esteem ที่ดีโดย #ชื่นชมในคุณสมบัติที่ดีของลูกบ่อยๆ เด็กที่รักตัวเองจะไม่ปล่อยให้ใครรังแก ฉันดีพอจึงไม่เชื่อในคำพูดลบของใครโดยไม่มีเหตุผล
.
ลูกจะรู้จักสร้างขอบเขตและปกป้องสิทธิ์ของตน กล้าปฎิเสธ หรือ พูดคำว่า “ไม่” เมื่อรู้สึกไม่ดี ไม่ยอมให้ใครชักจูงหรือละเมิดสิทธิ์ได้ง่ายๆ เพราะมีความมั่นคงทางใจและความมั่นใจเป็นเกราะและอาวุธ
.
(เริ่มศึกษาได้ฟรีจาก บทที่ 1 ปัจจัยต่างๆในการปรับพฤติกรรมลูก และ บทที่ 4 ทักษะการชมสร้าง self esteem ที่ https://www.netpama.com)
.
2. #สอนทักษะในการจัดการควบคุมอารมณ์
ในยามขับขันหากลูกจัดการอารมณ์ตนเองได้ จะไม่กังวล ตกใจ หรือกลัวเกินไป สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งยั่วยุ ไม่วู่วามหรือใช้อารมณ์ท้าทาย แต่จะใช้สติและเหตุผลในการจัดการแก้ไขปัญหา
.
ทักษะสำคัญนี้ควรสอนและฝึกฝนตั้งแต่ลูกยังเล็ก ทำได้โดยพูดสะท้อนความรู้สึกของลูกบ่อยๆ ฝึกให้ลูกเข้าใจและรู้จักการจัดการอารมณ์ตนเอง
.
“เพื่อนพูดแบบนี้ ลูกรู้สึกยังไงบ้าง”
“แม่เข้าใจว่าลูกเสียใจที่เพื่อนพูด/ทำแบบนี้ ลูกมีคุณค่าและเป็นที่รักของพ่อแม่เสมอนะ ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาทำให้เรารู้สึกแย่หรือรังแกลูกได้”
“พ่อรู้ว่าลูกกลัวจริงๆ พ่ออยู่ตรงนี้กับลูกเสมอ บอกได้เลยถ้าอยากให้พ่อช่วยอะไร”
.
(ศึกษาเทคนิคการสื่อสารฝึกสะท้อนความรู้สึกและการจัดการอารมณ์ ได้ฟรีจาก บทที่ 2 เทคนิคการสื่อสาร https://www.netpama.com
.
3. #ฝึกทักษะตามวัยและวินัยในตัวเอง
เด็กที่ดูแลตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้จะมีความภูมิใจ ไม่รอพึ่งพาผู้อื่น มีความเป็นตัวเอง จึงมักจะไม่ใช่เป้าของการถูกควบคุม บังคับ หรือรังแก
.
ทักษะตามวัยจะทำให้ลูกมั่นใจ สามารถปรับใช้ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง ร่วมกับทักษะอื่นๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าได้
.
3. #ฝึกทักษะในการแก้ปัญหา
ทักษะนี้ต้องผ่านการฝึกฝน ฝึกให้ลูกได้คิดและเรียนรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้นจริง หรือทำได้โดยพูดคุยผ่านนิทาน ข่าวหรือเรื่องราวในสังคม โดยถามคำถามปลายเปิดฝึกให้ลูกคิดหาคำตอบด้วยตนเองก่อน แล้วค่อยสอนหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกเป็นประจำ เช่น
.
“ถ้าเพื่อนบอกว่านี่คือการเล่น แต่ลูกไม่ชอบและไม่สนุก”
.
ลูกจะทำอย่างไรได้บ้าง ?
#ทางออกมีได้หลายทาง เช่น เพิกเฉยหากทำได้ หลีกเลี่ยง ถอยหนี หรือเผชิญหน้าด้วยความกล้าแต่ไม่ท้าทาย บอกให้หนักแน่นว่า “หยุด เราไม่ชอบที่ทำแบบนี้”
.
ลูกจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ?
#ลูกต้องมีทักษะและไหวพริบเพื่อแก้ปัญหา เพราะในความเป็นจริงไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว ต้องเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาตามสถานการณ์ให้เหมาะสม
.
เช่น การไม่อยู่ลำพังในที่ลับตาคน ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มเพื่อลดการเป็นเป้า หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคน toxic ใช้การผูกมิตร หรือตอบโต้เพื่อป้องกันตัวหากจำเป็น กล้าที่จะหนักแน่นเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่นด้วยวิธีที่เหมาะสม
.
ใครช่วยลูกได้บ้าง ?
#ฝึกให้ลูกกล้าขอความช่วยเหลือ ทำได้โดย พูดคุย ถามไถ่ลูกบ่อยๆ รับฟังโดยไม่ซ้ำเติมแม้ลูกจะทำผิดพลาด เมื่อลูกพบปัญหาช่วยให้ลูกได้คิดหาทางแก้ไขด้วยตัวเอง และยื่นมือเข้าช่วยทันทีเมื่อลูกต้องการ
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก
.
ทำให้ลูกกล้าพอที่จะขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจากเพื่อน คุณครู พ่อแม่ หรือ ผู้ใหญ่รอบข้างที่ไว้ใจ
.
4. #ฝึกทักษะในการช่างสังเกต
ฝึกให้ลูกได้สังเกต ท่าทาง อารมณ์นิสัยและการกระทำของคนรอบข้าง การช่างสังเกตจะทำให้ลูกรอบคอบ รู้จักแยกแยะและเลือกคบคน มีสัญชาตญาณในการระวังตนเอง
.
หากลูกรู้สึกไม่สบายใจ ไม่ปลอดภัย ต้องกล้าที่จะพูดหรือหยุดความสัมพันธ์แล้วเดินออกมา เพื่อขอความช่วยเหลือ
.
“วันนี้ที่โรงเรียนลูกเป็นอย่างไร เพื่อนๆ เล่นกันยังไงบ้าง“
“แม่ได้ยินว่า คุณครูว่ายน้ำดุมาก ไหนเล่าให้แม่ฟังหน่อยว่าคุณครูทำอะไร”
“ลูกคิดว่า ทำไมครูถึงพูด/ทำอย่างนั้น แล้วเพื่อนกับหนูรู้สึกอย่างไร เราจะทำอะไรได้บ้าง“
.
5. #ทำให้บ้านคือเซฟโซนและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก
ไม่ว่าโลกภายนอกจะน่ากลัวสักแค่ไหน ครอบครัวจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกเสมอ พ่อแม่คือต้นแบบที่ดีของลูก ภายใต้ร่มเงาแห่งความรักและห่วงใยจะมีทั้งความเข้มแข็ง มั่นคงและปลอดภัยโอบกอดลูกให้อุ่นใจอยู่เสมอ
.
มาเรียนรู้และเติบโตอย่างเข้มแข็งไปด้วยกันกับลูกนะคะ

.
ทุกบทเรียนข้างต้นได้ถูกรวบรวมไว้ในคอร์สจัดเต็ม #คอร์สonline จาก Net PAMA ที่สามารถนำไปปรับใช้ในทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน จัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง ทั้งหมดนี้เรียน #online ได้ฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ