window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-HT69D45H8X');

เลี้ยงลูกเชิงบวกด้วยใจพ่อแม่ที่คิดบวก

เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
#เลี้ยงลูกเชิงบวกด้วยใจพ่อแม่ที่คิดบวก บทความโดย #แม่มิ่ง
.
การเลี้ยงลูกเชิงบวก ไม่ได้หมายถึงพ่อแม่ที่ใจดียอมลูกตามใจลูกไปทุกอย่างหรือมองโลกสวยงามไปหมด แต่การเลี้ยงลูกเชิงบวก คือ การเข้าใจลูก เข้าใจโลกตามความเป็นจริง
.
เข้าใจลูกหมายถึง เข้าใจพัฒนาการตามวัยของลูก ไม่ได้มองลูกเป็นเด็กเล็กที่ต้องดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา คอยดูแลทั้งความคิด จิตใจ จนกลายเป็นควบคุมลูกไปโดยไม่รู้ตัว
.
แต่การเลี้ยงลูกแบบเข้าใจพัฒนาการตามวัยของลูก จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ส่งเสริมให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีที่มีศักยภาพ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เพราะลูกได้รับการเติมเต็มทั้งกายและใจ โดยเฉพาะในด้านจิตใจจากครอบครัว
.
เลี้ยงลูกเชิงบวก ด้วยหัวใจพ่อแม่คิดบวก ทำได้ดังนี้
.
#เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็นและสัมผัสได้ พฤติกรรมและทัศนคติของพ่อแม่สำคัญต่อการเลี้ยงลูกให้เติบโตไปในทิศทางใด พฤติกรรม ทัศนคติ ส่งผลต่อลูกโดยตรง เพราะลูกไม่ได้เชื่อฟังพ่อแม่ที่คำสอน แต่ลูกเชื่อฟังพ่อแม่จากการกระทำ เช่น สอนให้ลูกรักการอ่าน พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างของนักอ่านให้ลูกเห็น หรือจัดสภาพแวดล้อมในบ้านเพื่อส่งเสริมให้ลูกรักการอ่านไปพร้อมๆกับพ่อแม่ ลูกมีแนวโน้มที่จะรักการอ่านได้ไม่ยาก
.
#เวลาคุณภาพเวลาของครอบครัว เวลาคุณภาพเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับลูก เป็นช่วงเวลาที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว ทำให้ลูกรู้สึกว่า เขามีพ่อแม่คอยเคียงข้างเสมอไม่ว่าจะสุข ทุกข์ เศร้าเสียใจ ลูกจะมีพ่อแม่ที่คอยใส่ใจดูแล เวลาคุณภาพจึงไม่ได้หมายถึงระยะเวลายาวนานที่จะต้องอยู่กับลูกตลอดเวลา แต่ใช้เวลาที่มี เช่น รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุด หรือการนั่งเล่น พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ถือเป็นช่วงเวลาคุณภาพทั้งสิ้น เพราะพ่อแม่จะได้สังเกตเห็นพฤติกรรม ความคิดเห็น คำพูดของลูก ของล้วนสะท้อนให้พ่อแม่เข้าใจในตัวลูกมากขึ้น
.
#คำชมพฤติกรรมดีช่วยสร้างพฤติกรรมดีอย่างต่อเนื่อง คำชมที่ไม่ได้นำออกมาใช้เฉพาะเวลาที่ลูกประสบความสำเร็จเพียงเท่านั้น เช่น ชมเพราะสอบได้คะแนนดี ชมเพราะแข่งขันได้รางวัลชนะเลิศ แต่เป็นคำชมที่ให้ลูกเห็นว่าตัวลูกเองมีความพยายามมากแค่ไหน ชมที่พฤติกรรมดีที่ลูกกระทำ เช่น มีน้ำใจ ขยัน อดทน สุภาพ อ่อนน้อม คำชมที่จริงใจของพ่อแม่ ช่วยสร้างกำลังใจ สร้างความมั่นใจ เป็นการปลูกฝังนิสัยการทำสิ่งดีให้กับลูกได้
.
#หลีกเลี่ยงการดุว่าที่รุนแรง การดุว่า หรือต่อว่าลูกด้วยถ้อยคำรุนแรง อาจสร้างบาดแผลลึกในใจโดยที่พ่อแม่ไม่ทันคิด เพราะลูกจะเชื่อว่า สิ่งนั้นคือตัวตนของเขา การดุ หรือว่ากล่าวตักเตือน ควรดุที่พฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ไม่เหมาะสม ดุเพื่อให้เกิดการแก้ไข มากกว่าดุที่ตีตราว่าลูกเป็นเด็กดื้อ เด็กเกเร
.
#ให้ลูกใช้ความคิดของตนเอง เพื่อทำสิ่งที่ต้องการหรือแก้ไขปัญหาด้วยตนเองบ้าง เริ่มต้นด้วยการใช้คำถามกระตุ้นให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นของตนเอง ทำไมลูกถึงคิดเช่นนั้น พ่อแม่รับฟัง พร้อมทั้งชวนให้ลูกคิดถึงข้อดี ข้อเสียที่เกิดขึ้นด้วยตัวของลูกเอง ทำให้ลูกเกิดมุมมองและรู้จักวิเคราะห์ปัญหามากขึ้น
.
#เข้าใจตนเองเข้าใจผู้อื่น คนเรามีความแตกต่างกันในด้านต่างๆ ภาษา ศาสนา วัฒนธรรม รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ดังนั้น การสอนให้ลูกเข้าใจความแตกต่างนี้ถือเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูกตั้งแต่เด็ก เพราะการสอนให้ลูกเข้าใจผู้อื่น สร้างจิตใจที่เมตตาต่อผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราทำให้ลูกอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
.
#เมื่อทำผิดต้องยอมรับผิด พ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างของการรับผิดชอบต่อความคิดและการกระทำของตนเอง ขอโทษเมื่อทำผิด ทำให้ลูกเรียนรู้ว่า ใครๆก็ทำผิดได้ แต่เมื่อทำผิดแล้วต้องกล้ารับ และเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
.
สร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว ด้วยการสื่อสารเชิงบวก หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดต้องการเลี้ยงลูกเชิงบวกด้วยการปรับพฤติกรรมด้วยเทคนิคการสื่อสารคำชม การให้รางวัล และการลงโทษ สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้ที่ https://netpama.com/ คอร์สเรียนที่ภูกออกแบบโดยจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น ที่สำคัญเรียนฟรีด้วยนะคะ

Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก

Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม


#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก
หมวดหมู่ทั้งหมด

NET PAMA