‘เวลาคุณภาพ’ ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่พ่อแม่ควรใส่ใจ
‘เวลาคุณภาพ’ ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่พ่อแม่ควรใส่ใจ
เวลาคุณภาพกับลูก ช่วงเวลาที่พ่อแม่ควรใส่ใจ | Net PAMA Live 18
การให้รางวัลที่สร้างความหมายกับลูกมากที่สุดคือการให้เวลาคุณภาพ
เด็ก ๆ เปรียบเสมือนต้นไม้ ที่ต้องได้รับปัจจัยต่าง ๆ มากมายเพื่อเติบโต ซึ่งเวลาคุณภาพก็เป็นเหมือนปุ๋ยที่ช่วยให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างมั่นคง โดยเวลาคุณภาพ หมายถึง เวลาที่เด็กได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปกับครอบครัว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณแต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพ เป็นเวลาที่เด็กรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย สบายใจ มีความสุขที่ได้ทำ ซึ่งจะช่วยให้เด็กเกิดความรู้สึก 3 อย่าง ได้แก่
ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
เวลาคุณภาพไม่ว่าจะให้เมื่อไรก็มีค่าเสมอ แต่ในช่วงแรกเกิด-2 ปีแรกจะเป็นช่วงที่จำเป็นต้องได้รับเวลาคุณภาพเป็นอย่างมากเพราะเป็นเวลาที่เด็กเริ่มเติบโต ยังไม่มีความแข็งแรงทางความคิดหรือร่างกาย
หากให้คุณพ่อคุณแม่ลองคิดดูว่า ตนเองต้องการเวลาจากคู่ชีวิตของตนเองเท่าไรในแต่ละวัน?
คำตอบที่ได้คงแตกต่างกันออกไป คนที่ชอบอยู่กับตนเอง มีโลกส่วนตัว อาจตอบว่าวันละ 30 นาทีก็เพียงพอแล้ว ในขณะที่บางคนชอบมีปฎิสัมพันธ์กับผู้อื่นอาจตอบว่าวันละ 4 ชั่วโมง เพราะเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลูกเองก็เช่นกัน เมื่อไรที่เขารู้สึกว่าได้รับเวลาคุณภาพเพียงพอแล้ว เขาจะแสดงให้เรารับรู้ได้เองว่าเขาอิ่มกับปุ๋ยที่ได้รับแล้ว ดังนั้นทำเท่าที่เราสามารถทำได้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว
เพราะเวลาคุณภาพสามารถเกิดได้แม้จะมีเวลาแค่ 5 นาที เช่น เวลาที่ลูกเล่าเรื่องของเขาตอนที่รถติดระหว่างนั่งรถไปโรงเรียน เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่คำนึงเสมอว่าอยากมีเวลาคุณภาพกับลูก ช่วงเวลานั้นก็จะเกิดขึ้นได้เองแม้ไม่ได้ตั้งใจ
เวลาคุณภาพมีหลายระดับ บางครั้งพ่อแม่มุ่งที่จะสร้างเวลาคุณภาพที่คับแก้ว ต้องการให้เวลานั้นอยู่ในความทรงจำของลูกไปตลอด จนกลายเป็นการกดดันตัวเองมากเกินไป ที่จริงแล้วเวลาคุณภาพไม่จำเป็นต้องอยู่ในคุณภาพที่คับแก้วตลอดเวลา เพราะการได้รับเวลาคุณภาพสามารถสะสมได้ ไม่จำเป็นต้องมีแค่ครั้งเดียว แค่ได้สร้างเวลาคุณภาพรวมกันก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เวลาคุณภาพที่มีให้ลูกแต่ละคนแบบเฉพาะเจาะจงเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางครั้งการที่ต้องมีเวลาคุณภาพกับลูกทุกคน ในขณะที่ตัวเองก็มีหน้าที่หลายอย่างต้องทำอาจเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ให้เข้ากับชีวิตของตนเอง เพื่อไม่ให้เหนื่อยหรือกดดันตนเองมากเกินไป
กิจกรรมที่ช่วยสร้างเวลาคุณภาพ
เวลาที่ลูกเล่าเรื่องให้เราฟัง เมื่อลูกกล้าเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้เราฟัง ทั้งเรื่องดีและไม่ดี คุณพ่อคุณแม่สามารถมองหาเรื่องที่จะชื่นชมและยอมรับเขาได้แม้จะเป็นในเรื่องดูเล็กน้อยก็ตาม เช่น “แม่ดีใจมากเลยนะที่ หนูกล้าเล่าเรื่องที่ไม่ดีหรือเรื่องที่หนูไม่ชอบให้แม่ฟัง หนูเป็นเด็กที่ซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง” โดยไม่ปนเรื่องตำหนิ แม้ในบางครั้งจะเป็นเรื่องไม่ดี เช่น สอบตกหรือรู้สึกเบื่อที่ต้องไปเรียนก็ตาม แต่เราแสดงให้เห็นว่าเรายอมรับในตัวเขา (เรียนรู้วิธีการชมและทักษะพื้นฐานของการสื่อสารได้ที่ บทที่ 2 และ 3 ในคอร์สจัดเต็มของเน็ตป๊าม้า)
ช่วยกันคิดเรื่องต่าง ๆ และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นการคิดเรื่องที่ยิ่งใหญ่หรือต่อยอดจิตนาการมากมาย แค่ปัญหาเล็กน้อยในชีวิตประจำวันของลูกก็สามารถทำได้ เพราะเมื่อไรที่เราช่วยลูกคิดเรื่องของเขา ลูกจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกใส่ใจ รู้สึกว่าเขาได้รับความสำคัญ
ทบทวนความทรงจำดี ๆ ด้วยการดูรูปถ่าย คลิปวิดิโอหรือ diary เก่า ๆ เราสามารถกลับมาดูความทรงจำดี ๆ รวมกันได้จากการดูรูปถ่ายเก่า ๆ ร่วมกันพูดคุยถึงภาพนั้น เป็นการกลับไปย้ำความทรงจำดี ๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกัน
ทำกิจวัตรประจำวันร่วมกัน เช่น กินข้าวด้วยกัน อ่านนิทานด้วยกัน ซ่อมสิ่งต่าง ๆ ด้วยกัน หรือแม้แต่การบอกฝันดีก่อนนอน ก็สามารถเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างเวลาคุณภาพได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงไว้เสมอว่าในช่วงเวลานี้ไม่ควรเน้นการสั่งสอน แต่เน้นการรับฟังและยอมรับเรื่องราวของลูกแทน
มีกิจกรรมร่วมกันในวันสำคัญ เช่น ไปเที่ยวด้วยกันในวันเด็ก อยู่ด้วยกันในวันเกิดของคนในครอบครัวหรือแม้กระทั่งการตั้งใจว่าเราจะไปกินข้าวนอกบ้านด้วยกันทุกวันเสาร์ก็นับเป็นวันสำคัญที่เราตั้งขึ้น
ชวนกันไปลองทำสิ่งใหม่ ๆ ชวนเพื่อนลูกมาบ้าน หรีอหางานอดิเรกทำร่วมกัน กิจกรรมพวกนี้ยังช่วยสร้างเวลาคุณภาพได้ดีกับลูกวัยรุ่น เพราะเมื่อไรที่พ่อแม่เอ่ยปากชวนเพื่อนเขาหรือขอมาร่วมทำงานอดิเรกที่เขาชอบ ลูกจะได้รับรู้ถึงการถูกยอมรับตัวตนของเขา
อีกทั้งถ้าหากผู้ปกครองท่านใดอยากฝึกฝนวิชาเลี้ยงลูกเชิงบวก อยากให้ลองมาเรียนคอร์สจัดเต็มกับ Net PAMA แบบฟรีๆ รับรองว่าสนุก ได้ความรู้ คุ้มแวลาแน่นอนค่ะ !
