ความอบอุ่นไม่ได้แปรผันตรงกับจำนวนคนที่อยู่ด้วยกัน
เด็กชายคนหนึ่งบอกหมอว่า "ผมรู้สึกเหงา"
ทั้งๆที่บ้านของเด็กคนนี้ มีทั้ง พ่อแม่ พี่น้อง และปู่ย่า แต่เด็กก็ยืนยันว่า "ผมเหมือนไม่มีใคร"
"เพราะอะไร" หมอถาม
"พ่อผมดื่มเหล้าเมาทุกวัน แม่ก็ด่าพ่อตลอดที่เมา ส่วนพี่ชายของผมก็ออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนทุกวัน ผมจะอยู่กับน้องสาวเป็นส่วนใหญ่ แต่น้องของผมก็เล็กมาก คุณปู่ก็เป็นคนเงียบๆ ส่วนย่าก็ไม่สบายเท่าไหร่"
"เวลาที่เครียด ส่วนใหญ่ก็คุยกับใครที่บ้านไม่ได้ ก็ต้องเก็บไว้คนเดียว เอาไปเล่าให้เพื่อนฟัง ก็โชคดีที่เพื่อนของผมเข้าใจ"
"อยู่กับเพื่อนคนนี้คนเดียว มันอบอุ่นใจกว่าอยู่ที่บ้านหลายเท่า มันพอจะทำให้ลืมความเหงาที่บ้านได้"
.
โดยปกติ หมอจะโดยสารรถไฟใต้ดินมาทำงานทุกวัน หมอคิดถึงตัวเองตอนที่ยืนอยู่ในตู้รถไฟช่วงชั่วโมงเร่งด่วน คนยืนเบียดกันหลายคน แทบขยับไม่ได้ หรือเวลาขึ้นลิฟท์ที่โรงพยาบาลตอนเช้า ก็คล้ายๆกัน คนที่อยู่ล้อมหน้าล้อมหลัง ไม่ได้ทำให้เกิดความอบอุ่นใจ
เพราะฉะนั้นความอบอุ่นคงไม่ได้แปรผันตรงกับจำนวนคนที่อยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะสำหรับเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในครอบครัว คงสรุปไม่ได้ว่า ครอบครัวที่มีคนมากมายจะอบอุ่นกว่าครอบครัวที่มีกันอยู่ไม่กี่คน
ถ้าอยู่กันหลายคน แต่ห่างเหินกัน ไม่พูดคุยกัน หรือคุยกันเมื่อไหร่ก็ทะเลาะกันทุกครั้ง การอยู่ด้วยกันอาจทำให้ทุกข์ใจมากกว่า
.
ความอบอุ่นขึ้นอยู่กับ สัมพันธภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความสบายใจที่เราได้อยู่กับใครอีกคน ที่ไม่จำเป็นต้องมีมากมายหลายคน
เหมือนที่เด็กคนนี้บอกหมอ แค่เพื่อนคนเดียวที่เข้าใจ เขาก็รู้สึกอบอุ่นใจ
และในฐานะที่พ่อแม่ ผู้ใหญ่ทุกคนมีวัยวุฒิ และวุฒิภาวะมากกว่าเด็กๆ ผู้ใหญ่จึงควรจะมีหน้าที่พิจารณาว่าทำอย่างไร ให้เด็กๆที่ดูแลอยู่รู้สึกอบอุ่นใจ
ไม่ยากหรอกค่ะ ลองคิดถึงสมัยที่เราเป็นเด็กๆ เราอยากให้พ่อแม่มีเวลาอยู่กับเรา เล่น พูดคุย รับฟัง และเป็นที่พึ่งในเวลาที่เราทุกข์ใจ เด็กๆลูกๆของเราก็คงไม่ต่างกัน
เพราะบ้านไม่ใช่รถไฟฟ้าหรือลิฟท์โดยสาร บ้านจึงเป็นสถานที่ที่ครอบครัวอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกอบอุ่นใจนะคะ
.
เขียนโดย พญ.เบญจพร ตันตสูติ
ภาพประกอบโดย ณรัตน์ สร้อยสังวาลย์