เลี้ยงลูกในยุคโควิดอย่างไรให้ไม่เครียด
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
เลี้ยงลูกในยุคโควิดอย่างไรให้ไม่เครียด
"ทำไมหนูต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ร้อนก็ร้อน อึดอัดก็อึดอัด"
"หนูเบื่อแล้ว หนูไม่ได้เจอเพื่อนนานแล้ว เมื่อไหร่หนูจะได้เจอเพื่อนๆ คะ"
"เมื่อไหร่จะเลิกเรียนออนไลน์ ผมเบื่อมากเลย งานก็เยอะ เรียนก็ไม่รู้เรื่อง"
ปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของโควิด -19 กลับมารุนแรงอีกครั้ง หนำซ้ำยังรุนแรงกว่าที่เคยเกิดขึ้นและยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นในเวลาอันสั้น ช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาที่หนักหน่วงและตึงเครียดทั้งต่อผู้ใหญ่และเด็ก
สำหรับผู้ใหญ่อาจมีความเครียดจากการระบาดโดยตรง แต่สำหรับเด็กๆ ความเครียดมักเกิดทางอ้อม เช่น การไม่สามารถออกไปนอกบ้านได้ ไปเจอเพื่อนๆไม่ได้ หรือกอดหอมพ่อแม่เหมือนเดิมไม่ได้ ซึ่งเด็กๆ อาจไม่เข้าใจว่าทำไม
แล้วพ่อแม่จะอธิบายอย่างไรให้ลูกเข้าใจ ?
ในการพูดคุยเรื่องยากๆ เช่นนี้กับลูก พ่อแม่หลายคนอาจเข้าใจว่าส่วนสำคัญอยู่ที่เนื้อหาคำอธิบาย แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือน้ำเสียงท่าทีและอารมณ์ตอนที่สื่อสารเรื่องนี้ให้เด็กๆ ฟัง
ดังนั้น การอธิบายจึงประกอบด้วยสองสิ่งที่พ่อแม่ต้องเตรียมตัว คือ อารมณ์และเนื้อหานั่นเอง
1. ด้านอารมณ์ : อย่าลืมว่าจุดประสงค์ในการอธิบาย ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ลูกเข้าใจสถานการณ์ แต่ยังต้องทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยมั่นคงอีกด้วย ท่าที น้ำเสียง และอารมณ์ของพ่อแม่ตอนพูดคุยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ก่อนจะพูดคุยกับลูก พ่อแม่ควรสำรวจอารมณ์ตนเองก่อน ตอนนี้เครียดอยู่หรือไม่ อารมณ์มั่นคงพอหรือไม่ หากพ่อแม่กังวลมากอาจทำให้เด็กกังวลตามไปด้วย ลูกๆ จะรู้สึกหวาดกลัว เครียด และไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นผลเสียกับเด็กในสถานการณ์เช่นนี้
2. ด้านเนื้อหา : ในส่วนนี้ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามอายุและความเข้าใจของลูก
หากเป็นเด็กเล็ก ตัวเนื้อหาอาจไม่สำคัญเท่าน้ำเสียงและท่าทาง พ่อแม่สามารถอธิบายโดยใช้ภาษาง่ายๆ ตอบคำถามที่เด็กๆ สงสัย เช่น ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ทำไมออกไปนอกบ้านไม่ได้ พ่อแม่อาจตอบว่า เพราะตอนนี้ข้างนอกมีโรคระบาดอยู่ ทำให้ทุกคนไม่สบาย เราถึงต้องป้องกันตัวเองไม่ให้ติดโรค
หากเป็นเด็กโตจนถึงเด็กวัยรุ่น สามารถอธิบายแบบเดียวกับการพูดคุยกับผู้ใหญ่ได้ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ไม่ขู่ให้กลัวเกินควร แต่ก็ไม่ลดทอนปัญหา
การแพร่ระบาดของโควิด -19 คงจะอยู่กับเราต่อไปอีกนาน อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีการจัดการการระบาดที่ดี และมีการนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ในตอนนี้ นอกจากการดูแลสุขภาพตนไม่ให้ติดโรคแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการดูแลจิตใจตนเองและคนรอบตัว แม้ในทางปฎิบัติจะทำได้ยาก และสถานการณ์ปัจจุบันจะชวนให้หดหู่สิ้นหวัง แต่ขอให้ทุกคนยังมีความหวังอยู่ว่าวันหนึ่งเราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้
เรียบเรียง นศพ.รินลดา คงพิบูลย์กิจ
ภาพประกอบ พรรษมนต์ ศุภจารีรักษ์
"ทำไมหนูต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ร้อนก็ร้อน อึดอัดก็อึดอัด"
"หนูเบื่อแล้ว หนูไม่ได้เจอเพื่อนนานแล้ว เมื่อไหร่หนูจะได้เจอเพื่อนๆ คะ"
"เมื่อไหร่จะเลิกเรียนออนไลน์ ผมเบื่อมากเลย งานก็เยอะ เรียนก็ไม่รู้เรื่อง"
ปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของโควิด -19 กลับมารุนแรงอีกครั้ง หนำซ้ำยังรุนแรงกว่าที่เคยเกิดขึ้นและยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นในเวลาอันสั้น ช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาที่หนักหน่วงและตึงเครียดทั้งต่อผู้ใหญ่และเด็ก
สำหรับผู้ใหญ่อาจมีความเครียดจากการระบาดโดยตรง แต่สำหรับเด็กๆ ความเครียดมักเกิดทางอ้อม เช่น การไม่สามารถออกไปนอกบ้านได้ ไปเจอเพื่อนๆไม่ได้ หรือกอดหอมพ่อแม่เหมือนเดิมไม่ได้ ซึ่งเด็กๆ อาจไม่เข้าใจว่าทำไม
แล้วพ่อแม่จะอธิบายอย่างไรให้ลูกเข้าใจ ?
ในการพูดคุยเรื่องยากๆ เช่นนี้กับลูก พ่อแม่หลายคนอาจเข้าใจว่าส่วนสำคัญอยู่ที่เนื้อหาคำอธิบาย แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือน้ำเสียงท่าทีและอารมณ์ตอนที่สื่อสารเรื่องนี้ให้เด็กๆ ฟัง
ดังนั้น การอธิบายจึงประกอบด้วยสองสิ่งที่พ่อแม่ต้องเตรียมตัว คือ อารมณ์และเนื้อหานั่นเอง
1. ด้านอารมณ์ : อย่าลืมว่าจุดประสงค์ในการอธิบาย ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ลูกเข้าใจสถานการณ์ แต่ยังต้องทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยมั่นคงอีกด้วย ท่าที น้ำเสียง และอารมณ์ของพ่อแม่ตอนพูดคุยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ก่อนจะพูดคุยกับลูก พ่อแม่ควรสำรวจอารมณ์ตนเองก่อน ตอนนี้เครียดอยู่หรือไม่ อารมณ์มั่นคงพอหรือไม่ หากพ่อแม่กังวลมากอาจทำให้เด็กกังวลตามไปด้วย ลูกๆ จะรู้สึกหวาดกลัว เครียด และไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นผลเสียกับเด็กในสถานการณ์เช่นนี้
2. ด้านเนื้อหา : ในส่วนนี้ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามอายุและความเข้าใจของลูก
หากเป็นเด็กเล็ก ตัวเนื้อหาอาจไม่สำคัญเท่าน้ำเสียงและท่าทาง พ่อแม่สามารถอธิบายโดยใช้ภาษาง่ายๆ ตอบคำถามที่เด็กๆ สงสัย เช่น ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ทำไมออกไปนอกบ้านไม่ได้ พ่อแม่อาจตอบว่า เพราะตอนนี้ข้างนอกมีโรคระบาดอยู่ ทำให้ทุกคนไม่สบาย เราถึงต้องป้องกันตัวเองไม่ให้ติดโรค
หากเป็นเด็กโตจนถึงเด็กวัยรุ่น สามารถอธิบายแบบเดียวกับการพูดคุยกับผู้ใหญ่ได้ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ไม่ขู่ให้กลัวเกินควร แต่ก็ไม่ลดทอนปัญหา
การแพร่ระบาดของโควิด -19 คงจะอยู่กับเราต่อไปอีกนาน อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีการจัดการการระบาดที่ดี และมีการนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ในตอนนี้ นอกจากการดูแลสุขภาพตนไม่ให้ติดโรคแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการดูแลจิตใจตนเองและคนรอบตัว แม้ในทางปฎิบัติจะทำได้ยาก และสถานการณ์ปัจจุบันจะชวนให้หดหู่สิ้นหวัง แต่ขอให้ทุกคนยังมีความหวังอยู่ว่าวันหนึ่งเราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้
เรียบเรียง นศพ.รินลดา คงพิบูลย์กิจ
ภาพประกอบ พรรษมนต์ ศุภจารีรักษ์
เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ