สอนลูกให้เรียนรู้ความแตกต่าง โตไปไม่เหยียดผู้อื่น
เมื่อ 6 วันที่แล้ว
สอนลูกให้เรียนรู้ความแตกต่าง โตไปไม่เหยียดผู้อื่น บทความโดย #น้องตัวกลม
.
ไอ้แว่น! ตัวเตี้ย! ดำ! อ้วน! สารพัดคำล้อเลียนที่ตัวเราเองก็ยังเคยได้ยินผู้ใหญ่บางท่านหยิบใช้คำพูดเหล่านี้มาพูดเล่น หรือพูดติดตลกกันอยู่บ่อยครั้ง… การสอนลูกให้เติบโตโดยไม่มีทัศนคติที่ล้อเลียนผู้อื่น เริ่มต้นจากการปลูกฝังทัศนคติที่ดี การเปิดกว้างในการรับฟัง และเคารพความแตกต่างตั้งแต่ยังเล็กได้ค่ะ และนี่คือเคล็ดลับที่ช่วยสร้างทัศนคติที่เปิดกว้างและปลูกฝังให้ลูกเข้าใจถึงความแตกต่างไม่เหยียดผู้อื่นในตัวลูก
.
#สอนให้เห็นคุณค่าของความแตกต่าง
อธิบายว่าทุกคนมีความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา เพศ และแนวคิด สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่ทำให้โลกน่าสนใจขึ้น อาจแสดงผ่านการอ่านหนังสือหรือดูวิดีโอที่สะท้อนความหลากหลายเพื่อให้ลูกเห็นภาพได้กว้างขึ้นและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
.
#เป็นแบบอย่างที่ดี
อาจเห็นน้องตัวกลมพูดเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้งในหลายๆ หัวข้อ เพราะการที่พ่อและแม่เป็นแบบอย่างที่ดีนั้น คือ “กุญแจสำคัญ” ในการสอนและสื่อสารกับลูกจริงๆ ค่ะ พ่อแม่ควรแสดงความเคารพและเปิดกว้างกับผู้อื่นอยู่เสมอ ให้ลูกเห็นว่าคุณใช้คำพูดและการกระทำที่เป็นมิตรและให้เกียรติทุกคนเท่าเทียมกัน สิ่งสำคัญคือพ่อและแม่ต้องระวังพฤติกรรมที่ตัวเองแสดงออกต่อคนอื่นเช่นกันค่ะ
.
#ตอบคำถามอย่างเปิดใจ
เด็กๆ มักมีคำถามเกี่ยวกับคนที่แตกต่างจากตนเอง เช่น รูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ศาสนาหรือประเพณีที่ต่างกัน การตอบคำถามเหล่านี้อย่างเปิดใจและอธิบายให้เข้าใจเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลาย
.
#สนับสนุนให้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง
พาลูกไปสัมผัสกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีที่ต่างออกไป เช่น พาไปงานเทศกาลจากวัฒนธรรมอื่นหรือชิมอาหารจากประเทศต่างๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกคุ้นเคยและเคารพคนที่แตกต่างจากตัวเอง
.
#สอนให้เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น
พูดคุยกับลูกเกี่ยวกับความสำคัญของการเข้าใจอารมณ์ผู้อื่น เช่น อาจถามว่า "ถ้าเราถูกตัดสินเพราะหน้าตาของเราจะรู้สึกอย่างไร" การฝึกให้ลูกมีความเข้าอกเข้าใจจะช่วยให้เขามีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นมากขึ้น
.
#สังเกตการเสพสื่อของลูก
การเสพสื่อบางครั้งมีการสร้างภาพจำที่อาจไม่เป็นจริงหรือบิดเบือน เช่น ละครบางเรื่องอาจจะมีภาพลักษณ์เชิงลบเกี่ยวกับการเหยียดเพศ สีผิว หรือใช้คำพูดด่าทอ ดังนั้นพ่อและแม่จะต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า คำบางคำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่ลูกเห็นในสื่อ เป็นเพียงการแสดงและไม่ควรนำมาพูดหรือใช้กับผู้อื่นในชีวิตจริง
.
การปลูกฝังความเคารพและความเข้าใจในความแตกต่างตั้งแต่ยังเด็กเป็นก้าวสำคัญในการสร้างลูกที่เติบโตขึ้นอย่างมีทัศนคติที่เปิดกว้างและไม่เหยียด และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่ต้องการเลี้ยงลูกเชิงบวก การปรับพฤติกรรม เทคนิคการสื่อสาร การชม การให้รางวัลและการลงโทษ สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้ที่ https://www.netpama.com/ ซึ่งคอร์สเรียนของเราถูกออกแบบโดยจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น มีทั้งคลิปวิดีโอเรื่องราวต่าง ๆ ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ที่สำคัญเรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ!
#NetPAMA #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก
.
ไอ้แว่น! ตัวเตี้ย! ดำ! อ้วน! สารพัดคำล้อเลียนที่ตัวเราเองก็ยังเคยได้ยินผู้ใหญ่บางท่านหยิบใช้คำพูดเหล่านี้มาพูดเล่น หรือพูดติดตลกกันอยู่บ่อยครั้ง… การสอนลูกให้เติบโตโดยไม่มีทัศนคติที่ล้อเลียนผู้อื่น เริ่มต้นจากการปลูกฝังทัศนคติที่ดี การเปิดกว้างในการรับฟัง และเคารพความแตกต่างตั้งแต่ยังเล็กได้ค่ะ และนี่คือเคล็ดลับที่ช่วยสร้างทัศนคติที่เปิดกว้างและปลูกฝังให้ลูกเข้าใจถึงความแตกต่างไม่เหยียดผู้อื่นในตัวลูก
.
#สอนให้เห็นคุณค่าของความแตกต่าง
อธิบายว่าทุกคนมีความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา เพศ และแนวคิด สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่ทำให้โลกน่าสนใจขึ้น อาจแสดงผ่านการอ่านหนังสือหรือดูวิดีโอที่สะท้อนความหลากหลายเพื่อให้ลูกเห็นภาพได้กว้างขึ้นและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
.
#เป็นแบบอย่างที่ดี
อาจเห็นน้องตัวกลมพูดเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้งในหลายๆ หัวข้อ เพราะการที่พ่อและแม่เป็นแบบอย่างที่ดีนั้น คือ “กุญแจสำคัญ” ในการสอนและสื่อสารกับลูกจริงๆ ค่ะ พ่อแม่ควรแสดงความเคารพและเปิดกว้างกับผู้อื่นอยู่เสมอ ให้ลูกเห็นว่าคุณใช้คำพูดและการกระทำที่เป็นมิตรและให้เกียรติทุกคนเท่าเทียมกัน สิ่งสำคัญคือพ่อและแม่ต้องระวังพฤติกรรมที่ตัวเองแสดงออกต่อคนอื่นเช่นกันค่ะ
.
#ตอบคำถามอย่างเปิดใจ
เด็กๆ มักมีคำถามเกี่ยวกับคนที่แตกต่างจากตนเอง เช่น รูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ศาสนาหรือประเพณีที่ต่างกัน การตอบคำถามเหล่านี้อย่างเปิดใจและอธิบายให้เข้าใจเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลาย
.
#สนับสนุนให้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง
พาลูกไปสัมผัสกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีที่ต่างออกไป เช่น พาไปงานเทศกาลจากวัฒนธรรมอื่นหรือชิมอาหารจากประเทศต่างๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกคุ้นเคยและเคารพคนที่แตกต่างจากตัวเอง
.
#สอนให้เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น
พูดคุยกับลูกเกี่ยวกับความสำคัญของการเข้าใจอารมณ์ผู้อื่น เช่น อาจถามว่า "ถ้าเราถูกตัดสินเพราะหน้าตาของเราจะรู้สึกอย่างไร" การฝึกให้ลูกมีความเข้าอกเข้าใจจะช่วยให้เขามีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นมากขึ้น
.
#สังเกตการเสพสื่อของลูก
การเสพสื่อบางครั้งมีการสร้างภาพจำที่อาจไม่เป็นจริงหรือบิดเบือน เช่น ละครบางเรื่องอาจจะมีภาพลักษณ์เชิงลบเกี่ยวกับการเหยียดเพศ สีผิว หรือใช้คำพูดด่าทอ ดังนั้นพ่อและแม่จะต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า คำบางคำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่ลูกเห็นในสื่อ เป็นเพียงการแสดงและไม่ควรนำมาพูดหรือใช้กับผู้อื่นในชีวิตจริง
.
การปลูกฝังความเคารพและความเข้าใจในความแตกต่างตั้งแต่ยังเด็กเป็นก้าวสำคัญในการสร้างลูกที่เติบโตขึ้นอย่างมีทัศนคติที่เปิดกว้างและไม่เหยียด และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่ต้องการเลี้ยงลูกเชิงบวก การปรับพฤติกรรม เทคนิคการสื่อสาร การชม การให้รางวัลและการลงโทษ สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้ที่ https://www.netpama.com/ ซึ่งคอร์สเรียนของเราถูกออกแบบโดยจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น มีทั้งคลิปวิดีโอเรื่องราวต่าง ๆ ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ที่สำคัญเรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ!
#NetPAMA #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก
เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ