ถ้าเรามัวแต่โกรธลูก เราจะไม่มีเวลากอดเขาเลย
วิธีจัดการอารมณ์โกรธแม่และการแก้ปัญหาลูกดื้อ????
.
แม้จะรักลูกมากแค่ไหน แต่หากเครียดและเหนื่อยมากเกินไป พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองทุกคนต้องเคยโกรธและเผลอใช้อารมณ์กับลูกบ้างไม่มากก็น้อย
พ่อแม่คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีอารมณ์โกรธได้
ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะโกรธลูก แต่เราควรรู้วิธีการจัดการและควบคุมอารมณ์ของตนเอง หลายครั้งเมื่อโกรธจึงดุ ตี ตะคอก ตวาดใส่ลูกและมักจะเสียใจ รู้สึกผิดกับลูกภายหลังเสมอ
การลงโทษลูกด้วยวิธีเชิงลบ เช่น การประชดประชัน ตะคอก การตี หรือแม้แต่การเมินเฉยหรือพูดไล่ใส่ลูก พบว่าสามารถควบคุมลูกได้ทันที ได้ผลดีโดยเฉพาะในช่วงที่ลูกยังเล็กด้วยเหตุผลที่ว่า “พ่อแม่คือโลกทั้งใบของเขา ลูกรักและกลัวเราที่สุด”
แต่การโมโหและใช้อารมณ์บ่อยๆของพ่อแม่ จะส่งผลต่อพฤติกรรมและอารมณ์ของลูกอย่างมาก ทำให้ลูกรู้สึกว่า พ่อแม่ที่ขี้โมโหไม่สามารถเป็นเซฟโซนให้เขาได้และบ้านที่ร้อนเป็นไฟไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยของเขา
การลงโทษเชิงลบมักจะเริ่มไม่ได้ผลเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น พ่อแม่จะไม่สามารถควบคุมลูกได้อีกต่อไป พบว่า ลูกมักตอบกลับด้วยการไม่เชื่อฟัง เมินเฉย ต่อต้านหรือก้าวร้าวกลับยิ่งกว่า
.
วันนี้เรามีวิธีที่จะช่วยจัดการความโกรธของพ่อแม่ รวมถึงวิธีการปรับแก้พฤติกรรมของลูก ซึ่งสามารถทำควบคู่กันไปมาแนะนำกันค่ะ
เริ่มต้นด้วยการยอมรับอารมณ์ของตัวเอง ยอมรับว่าเรากำลังโมโหและโกรธ สื่อสารบอกความรู้สึกและความต้องการของเราให้ลูกเข้าใจ โดยใช้เทคนิคป๊าม๊าแมสเสจ I-message (ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 2 เทคนิคการสื่อสาร www.netpama.com)
“แม่โกรธและโมโหมากที่เห็นลูกเล่นเกม ไม่ทำการบ้านให้เสร็จก่อนตามที่เราเคยตกลงกันไว้ แม่จะไประงับอารมณ์อยู่ห้องข้างๆ 10 นาที กลับมาแม่อยากเห็นลูกทำการบ้านนะ“
แต่หากเราโกรธจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว อย่าเพิ่งพูดหรือทำอะไรที่จะทำให้ทุกคนต้องเสียใจภายหลัง ให้เดินห่างออกจากลูกก่อนเพื่อจัดการอารมณ์ตัวเองก่อนที่จะระเบิดใส่ลูก
หาวิธีจัดการควบคุมอารมณ์โกรธที่เหมาะกับเรา เช่น หายใจเข้าออกลึกๆ นับ 1-100 , ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรืออาบน้ำ, ดื่มน้ำหวาน ทานไอศครีม หรือ การทำสมาธิช่วงเวลาที่เราผ่อนคลายเพื่อฝึกการควบคุมสติ
สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการฝึกฝน แต่หากพ่อแม่ทำได้ ลูกจะเรียนรู้ว่าอารมณ์โกรธนั้นเกิดขึ้นได้ และลูกก็จะเรียนรู้วิธีการจัดการและควบคุมอารมณ์จากพ่อแม่ได้เช่นกัน
ทบทวนหาสาเหตุของความโกรธ เรามักจะโกรธลูกเรื่องใด เป็นที่พฤติกรรมของเขา การที่ลูกไม่มีระเบียบวินัย หรือจากความเครียดและปัญหาส่วนตัวของเราเอง โดยแก้ไปที่ต้นเหตุ ( ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 1 ปัจจัยต่างๆในการปรับพฤติกรรมลูก www.netpama.com )
สร้างวินัยไปพร้อมกับสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูก เพื่อการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน โดยใช้หลักการเลี้ยงลูกเชิงบวก (Positive Parenting ) เช่น กำหนดตารางเวลา สร้างกฎกติกาในแต่ละช่วงวัย ทำซ้ำให้เป็นนิสัย แสดงความเชื่อมั่นและหมั่นชมเมื่อลูกทำพฤติกรรมดีเพื่อให้ลูกอยากทำซ้ำ โดยชมไปที่พฤติกรรมมากกว่าผลลัพธ์ (ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 3 เทคนิคการชม www.netpama.com)
“แม่ภูมิใจจังที่เห็นลูกดูแลทำการบ้านและทำงานส่งคุณครูได้ด้วยตัวเอง หนูเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบมากๆเลยนะ “
ให้รางวัลเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมดี หรือกำหนดข้อตกลงและบทลงโทษและร่วมกันกับลูกหากไม่ทำตามกฎและกติกาหรือที่วางไว้ เวลาลูกทำผิดอย่าตำหนิที่ตัวตนของเขาแต่ให้ ตำหนิไปที่พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง (ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 4 -6 เทคนิคการให้รางวัล เทคนิคการลงโทษ และเทคนิคการทำตารางให้คะแนน www.netpama.com)
“ลูกช่วยแม่ตากผ้าไม่บ่นเลย ทั้งๆ ที่วันนี้แดดร้อนมาก แม่มีไอติมคลายร้อนให้นะ มาขอแม่กอดหน่อย ขอบคุณนะจ๊ะ แม่ดีใจจังที่มีหนูคอยช่วยแม่ “
“แม่เสียใจนะที่ลูกไม่ทำตามที่”เรา“ตกลงกันไว้ ลูกเล่นเกมส์ก่อนทั้งที่ยังทำการบ้านไม่เสร็จ แม่ขอเก็บไอแพด 1 อาทิตย์ตามที่เราเคยตกลงกันไว้นะครับ “
หากอารมณ์โกรธและความหงุดหงิดมักเกิดจากความเครียดและปัญหาส่วนตัว พ่อแม่อาจต้องการเวลาพักบ้าง และต้องการผู้เคียงข้างคอยช่วยเหลือ เราต่างต้องเป็นกองหนุนเป็นกำลังใจให้กันและกัน
เพราะพ่อแม่ต้องมีความสุขก่อนจึงจะสามารถส่งความรักและความสุขให้ลูกได้ ให้“การเลี้ยงลูกเชิงบวก” ช่วยดับไฟแห่งความโกรธเพื่อเพิ่มเวลากอดลูกและคงความสุขให้กับทุกคนไปด้วยกันนะคะ ♥️
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงลูกเชิงบวกแบบ #คอร์สonline ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ในคอร์สจัดเต็ม ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ www.netpama.com มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง โดยเรียนฟรี!ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
.
.
เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันกับลูกนะคะ ♥️
บทความโดย มัมมี่Bชวนเมาท์