วิธี ‘บอกรักลูก’ โดยไม่ต้องพูดคำว่า ‘รัก’ ผ่านภาษารัก 5 แบบ (The Five Love Languages)
วิธี ‘บอกรักลูก’ โดยไม่ต้องพูดคำว่า ‘รัก’
ผ่านภาษารัก 5 แบบ (The Five Love Languages)
คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากบอกรักลูก แต่พูดไม่เก่งหรือขี้อายกันบ้างคะ เคยเป็นกันไหมคะ ? บางทีก็อยากแสดงออกความรักให้ลูกรับรู้บ้าง แต่อยู่ ๆ จะให้เดินไปบอกลูกว่า ‘รักนะ’ ก็รู้สึกเขินจนพูดไม่ออก
ยิ่งบ้านไหนที่ไม่ค่อยได้บอกรักลูกบ่อย ๆ จะให้มาพูดคำนั้นเลย มันก็คงรู้สึกแปลก ๆ อยู่ไม่น้อย ลูกก็อาจจะงงว่าวันนี้พ่อแม่เป็นอะไร
แต่ยังไงก็ตาม…ถึงพ่อแม่จะไม่ได้เอ่ยคำว่ารักให้ลูกได้ยินทุกวัน ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้รักลูกใช่ไหมล่ะคะ
พ่อแม่ก็ยังเป็นคนที่รัก ห่วงใยและหวังดีกับลูกอยู่ทุกวินาที เพียงแค่แสดงออกไม่ค่อยเก่งเท่านั้นเอง
วันนี้เน็ตป๊าม้าเลยรวบรวมวิธี ‘บอกรักลูก’ โดยไม่ต้องพูดคำว่า ‘รัก’ มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกไปลองใช้กับลูก ๆ ที่บ้านกันค่ะ
แม้จะไม่ได้พูดคำว่า ‘รัก’ ออกไป แต่ลูกจะรับรู้อย่างแน่นอนค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่รักเขามากแค่ไหน ผ่านการใช้ภาษารัก 5 แบบ มีวิธีอะไรกันบ้าง เรามาดูกันเลยค่ะ
.
1. สร้างเวลาคุณภาพระหว่างเรากับลูก หรือการให้ Quality Time นั่นเองคุณพ่อคุณแม่หลายท่านน่าจะคุ้นเคยกับคำนี้เป็นอย่างดีใช่ไหมคะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถมีเวลาคุณภาพกับลูกได้ทุกวันโดยการทำกิจกรรมที่เราและลูกสนใจร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น เล่นบอร์ดเกมด้วยกัน อ่านนิทานก่อนนอน ไปเที่ยวสวนสนุก หรือเพียงแค่หาเวลานั่งคุยอัพเดตชีวิตกับลูกแล้วรับฟังเรื่องราวของลูกอย่างตั้งใจ ฟังเพื่อที่จะเข้าใจ ไม่รีบตัดสิน ไม่สั่งรีบสอน แค่นี้ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายสำหรับลูกแล้วล่ะค่ะ
เวลาคุณภาพจะช่วยให้ลูกรับรู้ว่าพ่อแม่ให้ความสำคัญกับเขาเสมอ และช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกันจะกลายเป็นความทรงจำดี ๆ ที่อยู่ในใจลูกไปนานแสนนานเลยล่ะค่ะ
เพราะในบางครั้งการกระทำก็เสียงดังกว่าคำพูด การส่งภาษารักผ่านการดูแลช่วยเหลือ แบ่งเบาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูก ก็ช่วยให้ลูกรับรู้ความรักความปรารถนาดีจากพ่อแม่ได้เช่นกันนะคะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่หลายบ้านก็อาจจะทำให้ลูกเป็นประจำอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น การทำอาหารที่ลูกชอบ ช่วยจัดห้องนอนลูกให้เป็นระเบียบ ช่วยเตรียมชุดนักเรียนให้ในตอนเช้า หรือหาของอร่อยมาเสิร์ฟตอนที่ลูกกำลังนั่งอ่านหนังสือสอบอย่างเคร่งเครียด
การกระทำเหล่านี้จะช่วยให้ลูกรับรู้ว่าพ่อแม่จะสนับสนุนในสิ่งที่เขาต้องการเสมอ ในเวลาที่เหนื่อย ท้อแท้ ต้องการกำลังใจ หันไปข้าง ๆ เขาก็จะเจอพ่อแม่ที่พร้อมช่วยเหลือเขาและอยู่เป็นเพื่อนเขาไม่หนีไปไหน
3. ส่งความรักผ่านการสัมผัส หรือ Physical Touch
การกอด การหอม ลูบหัว หรือว่าจะโอบไหล่ เป็นวิธีที่ส่งคำว่า ‘รัก’ ออกไปถึงใจลูก ๆ ได้ชัดเจนไปไม่แพ้กว่าการพูดเลยค่ะ การที่พ่อแม่สัมผัสตัวลูกอย่างอบอุ่นและทะนุถนอมนั้นจะช่วยสร้างความรู้สึกทางบวกให้ลูกมากมายนับไม่ถ้วน ลูกจะรู้สึกอุ่นใจ รู้สึกมั่นคงในความรักที่พ่อแม่มีให้เขา ทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การกอด หอม ลูบหัว โอบไหล่ หรือแสดงความรักผ่านการสัมผัส ยังช่วยเยียวยาความรู้สึกทางลบของลูกได้อีกด้วยนะคะ วันไหนลูกอารมณ์ไม่ดี เหนื่อยล้า หรือรู้สึกท้อแท้ อ้อมกอดของพ่อแม่คือแหล่งชาร์จพลังชั้นเยี่ยมเลยล่ะค่ะ
4. คำพูดสื่อรัก หรือ Word of Affirmation
ไหนคุณพ่อคุณแม่ลองนึกประโยคบอกรักที่ไม่มีคำว่ารักกันหน่อยสิคะ คิดออกกันไหมคะ การบอกรักลูกผ่านคำพูดทำได้หลายวิธีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการชื่นชมในพฤติกรรมที่ดีของลูก การขอบคุณในสิ่งที่ลูกทำให้ หรือให้กำลังใจเวลาที่ลูกเหนื่อย คำพูดดี ๆ ของพ่อแม่จะช่วยให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่เห็นคุณค่าในตัวเขาและเขาจะมองเห็นคุณค่าในตนเองด้วยเช่นกัน
นอกจากจะพูดแล้ว การส่งข้อความทางโทรศัพท์ การเขียนจดหมาย หรือเขียนโพสต์อิทเล็ก ๆ เป็นข้อความชื่นชมหรือให้กำลังใจลูกก็เป็นทางเลือกที่น่ารักนะคะ เผื่อวันไหนที่ลูกต้องการกำลังใจ เขาจะได้กลับมาย้อนอ่านข้อความที่พ่อแม่เคยส่งให้เขาอีกครั้ง
5. การให้ของขวัญ หรือ Gifts
การมอบของขวัญกับลูกในโอกาสพิเศษเป็นการสื่อภาษารักที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาเลยค่ะ เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะมอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่เรารักอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ และผู้รับก็รู้สึกดีเวลาที่มีคนให้ของขวัญเช่นกัน การให้ของขวัญหรือรางวัลคือสิ่งที่แสดงถึงความรักอย่างเป็นรูปธรรม มองเห็น และจับต้องได้สำหรับลูก ลูกจะรับรู้ว่าพ่อแม่รักและให้ความสำคัญกับเขาหรือสิ่งที่เขาทำ เหมือนเวลาที่เรามอบของขวัญให้กับคนพิเศษนั่นเอง และที่สำคัญของขวัญไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเลยค่ะ อาจจะเป็นของฝากหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวมา เป็นรางวัลหลังจากที่ลูกทำพฤติกรรมที่ดี หรือเป็นการ์ดที่เขียนข้อความน่ารัก ๆ ถึงลูก อะไรก็ตามที่พ่อแม่มอบให้ลูกด้วยความรู้สึกที่ดี สิ่งนั้นมีคุณค่ากับลูกเสมอค่ะ
ลองสำรวจตัวเองดูนะคะ ว่าตัวคุณพ่อคุณแม่เองถนัดสื่อสารภาษารักแบบไหน และลูกชอบภาษารักแบบไหน
ยิ่งเข้าใจภาษารักของกันและกันมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น
#ความผูกพันในครอบครัวก็จะแปรผันไปตามปริมาณความรักที่คนในครอบครัวมอบให้แก่กัน
ยิ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ฝึกใช้ภาษารักให้ถนัดทั้ง 5 วิธีและสื่อสารภาษารักกับลูกอยู่เสมอ ลูกของเราจะเป็นเด็กที่ได้รับความรักอย่างล้นเปี่ยมและมากพอ จนส่งต่อความรักที่งดงามนี้ไปให้ผู้คนที่อยู่รอบตัวเขาได้ด้วยเช่นกันค่ะ
เน็ตป๊าม้าขอเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ดีในทุกครอบครัวนะคะ
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดต้องการศึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกเชิงบวก สามารถเข้ามาศึกษาได้ฟรี ที่ www.netpama.com มีทั้งคอร์สจัดเต็มและคอร์สเร่งรัดที่ตอบโจทย์ปัญหาพฤติกรรมลูกทุกบ้าน เรียนออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลานะคะ
ที่มา https://www.mixbook.com/inspiration/childs-love-language
บทความโดย #ซันเดย์