วิธีสื่อสารกับลูกในวันรับผลสอบ พร้อมเทคนิคเชิงบวกในสร้างแรงจูงใจให้ลูกรักการเรียน
เมื่อผลสอบทำแม่โกรธเป็นไฟและทำให้ลูกเสียน้ำตา วิธีสื่อสารกับลูกในวันรับผลสอบพร้อมเทคนิคเชิงบวกในสร้างแรงจูงใจให้ลูกรักการเรียน บทความโดย มัมมี่Bชวนเมาท์
.
ลูกเล่าให้ฟังว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน ประกาศผลสอบ ทันทีที่ได้รับใบคะแนน เพื่อนคนหนึ่งสอบตก 3-4 วิชาร้องไห้โฮออกมากลางห้องจนทุกคนตกใจ
.
“เรากลัวโดนแม่ว่า แม่ต้องโกรธและผิดหวังมากแน่ๆ” หลังจากฟังลูกเล่าจบ แม่ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เข้าใจทั้งมุมแม่และลูกเลยค่ะ
.
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เราอยากให้ลูกตั้งใจเรียนและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่เพราะแม่อาจจะรู้สึกว่าลูกไม่ตั้งใจเรียนพอจึงต้องมีการลงโทษหรือต่อว่าให้รู้สึก เราแค่หวังว่ามันจะช่วยกระตุ้นให้ลูกตั้งใจขึ้นได้
.
แต่ในความเป็นจริงนั้น การต่อว่าให้รู้สึกเจ็บปวด หรือการลงโทษทางลบไม่ได้ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ลูก ตรงกันข้ามกลับยิ่งทำให้ลูกมีทัศนคติลบกับการเรียน ทำลายความมั่นใจ ลดทอนคุณค่าในตัวลูก (low self-esteem) รวมถึงเป็นการทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกอีกด้วย
.
ปัญหาการเรียนที่พบส่วนใหญ่ หากไม่ได้เกิดจากการภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ มักเกิดจากการที่ลูก
- ขาดแรงจูงใจในการเรียน
- มีปัญหาการเรียน
- มีทัศนคติลบกับตัวเองและการเรียน เช่น คิดว่าตัวเองไม่เก่ง เรียนอ่อน หัวช้า เรียนไม่รู้เรื่อง โดนต่อว่าบ่อยๆ ขาดแรงจูงใจ
.
การแก้ปัญหาที่ตรงจุด คือ
- สื่อสารคุยกับลูกให้ถูกวิธีเพื่อกระตุ้นให้ลูกมีกำลังใจในการเรียนรู้
- สร้างทัศนคติที่ดีในการเรียน
- ช่วยเหลือลูกแก้ปัญหาให้ตรงจุด ทำให้ลูกตั้งใจเรียนและอยากที่จะพัฒนาผลการเรียนด้วยตัวเอง
.
ถึงแม้แม่จะผิดหวังแค่ไหนกับผลการสอบ แต่ขอให้รับรู้ว่า ลูกไม่สามารถมีกำลังใจได้ภายใต้ “ความกลัว” เราควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับลูก ยอมรับและรับฟังเขาอย่างเข้าใจ เพื่อให้ลูกกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาด กล้าเล่าถึงปัญหาในการเรียน พยายามคิดหาทางแก้ไขได้ด้วยตัวเอง
1. ก่อนอื่นเริ่มต้นด้วยการชื่นชมในส่วนที่ลูกสามารถทำได้ดีเพื่อเป็นกำลังใจ
???? เทคนิคการชมที่ให้ผลดี คือ #การชมไปที่ความตั้งใจและความพยายามของลูก #ไม่โฟกัสเฉพาะผลลัพธ์
การชมที่ความพยายาม จะทำให้ลูกมีกำลังใจอยากจะพยายามในทุกวิชาทั้งที่ทำได้ดีและไม่ดี เพราะลูกรู้ว่า “คุณค่าอยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่แค่คะแนน “ แม่เห็นและชื่นชมในความตั้งใจของเขา
“แม่ดีใจนะ ที่เห็นลูกตั้งใจอ่านหนังสือในวิชาที่ลูกชอบ”
การชมไม่ควรมีคำว่า”แต่” ต่อท้ายเช่น “ครั้งนี้ลูกได้ 95 คะแนน เก่งมากๆ แต่ครั้งหน้าเอาให้เต็มร้อยเลยนะ” แบบนี้ไม่ถือเป็นคำชมแต่เป็นการกดดันลูกในอีกรูปแบบหนึ่ง
2. สำหรับวิชาที่มีปัญหา #ให้พูดคุยไปที่ผลที่เกิดขึ้นเพื่อหาสาเหตุ #อย่าโจมตีที่นิสัยหรือพฤติกรรมของลูกที่ผ่านมา
???? ถามและฟังลูกอย่างเข้าใจและไม่ตัดสิน แสดงให้ลูกรู้ว่าแม่อยู่เคียงข้าง ไม่ว่าผลสอบจะเป็นอย่างไร ลูกยังมีคุณค่าและเป็นคนสำคัญของแม่เสมอ ลูกจะเปิดใจกล้าเล่าปัญหาและยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง เช่น ไม่ตั้งใจ เรียนไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือน้อยไป เมื่อแม่ #สะท้อนความรู้สึกของลูกแล้ว ค่อยบอกให้ลูกรู้ถึงความรู้สึกและความต้องการของแม่ (สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเทคนิคการสื่อสาร ป๊าม๊า Message)
“ลูกไม่ชอบวิชาเลขเพราะยากเกินไป แม่เห็นด้วยนะว่าวิชาเลขไม่ง่ายเลยต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและทำโจทย์เยอะจริงๆ”
“ลูกเรียนไม่เข้าใจ เสียใจที่โดนครูดุเวลาตอบไม่ได้เลยไม่ชอบวิชานี้ ถ้าเป็นแม่ แม่ก็เสียใจเหมือนกัน”
“แม่รู้สึกห่วงในวิชาที่ลูกสอบไม่ผ่าน แม่อยากช่วยลูกมีผลการเรียนดีขึ้น ให้แม่ช่วยตรงไหนบ้าง”
3. ฝึกให้ลูกรู้จักคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาทั้งในวิชาที่ตัวเองถนัดและไม่ถนัด พูดคุยกับลูกให้ลูกทบทวนสาเหตุและผล ให้คำแนะนำแก้ปัญหาร่วมกันกับลูกเพื่อให้ลูกสามารถสร้างแรงจูงใจและพัฒนาผลการเรียนได้ด้วยตัวเอง
“วิชาสังคม กับภาษาอังกฤษ ลูกทำได้ดีทีเดียว ไหนลองบอกพ่อหน่อย 2 วิชานี้ ลูกมีเคล็ดลับยังไง”
“ถ้าลูกอยากให้ผลการสอบดีขึ้น ลูกคิดว่าลูกน่าจะปรับตรงไหนบ้าง”
“แม่ดีใจนะที่ลูกยอมรับปัญหาและพยายามแก้ไข แม่เชื่อว่าลูกทำได้ แม่เป็นกำลังใจให้นะ”
เพราะการเรียนคือหน้าที่สำคัญของลูก พ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีและมีความสุข อย่างไรก็ตามอย่าลืมเตือนตัวเองว่า “เกรดคือตัววัดผล ..แต่ไม่ใช่ตัวตนของลูก”
อย่าละเลยที่จะให้คุณค่าใน ความพยายาม ความมุ่งมั่น และความตั้งใจของลูกด้วยนะคะ
เพราะการสื่อสารอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ และการชมลูกอย่างถูกวิธี ถึงแม้จะใช้เวลา แต่ได้ผลมากมายทั้งในด้านความสัมพันธ์และเป็นกำลังใจให้ลูกของเราไปให้ถึงเป้าหมาย สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการศึกษา “ทักษะพื้นฐานการสื่อสาร” และ “เทคนิคการชม” เพิ่มเติม สามารถเข้าเรียนได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช่จ่ายที่ www.netpama.com มีทั้งคลิปละคร ตัวอย่างคำพูด มีแบบฝึกหัดให้ลองทำ เข้าใจง่ายใช้จริงในชีวิตประจำวันรับรองว่าได้ผลแน่นอนค่ะ !
เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันกับลูกนะคะ ♥️